คุณเป็นคนหรือป่าว (Are you human?)

คำถามฮา ๆ จาก Ze Frank ที่จะถามว่าคุณเป็นคนหรือป่าว? รับรองว่าการดูในครั้งนี้คุณจะได้ยิ้มไปหัวเราะไป พร้อมกับการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ :)

ที่มา: TED

7 สิ่งพื้นฐานที่จะดึงดูดเงินมาหาคุณ

คุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบบ่นเรื่องเงินไม่พอใช้อยู่บ่อย ๆ ใช่ไหม หรือว่า ทำไมคุณมีรายได้ไม่เท่ากับที่เพื่อน ๆ คุณได้ และคุณเคยสงสัยไหมว่าอะไรคือสิ่งที่คุณควรทำเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ถ้าคำตอบคือ "ใช่" หลักก็ 7 สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรทำเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณ

1. เพิ่มความรู้ - ก้าวแรกในการเพิ่มรายได้หรือสร้างความร่ำรวย ก็คือการศึกษา การศึกษาช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสามารถสร้างความก้าวหน้าในการทำงานของคุณ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้เข้ามา โปรดจำไว้ว่าการศึกษาไม่ได้จบลงเมื่อคุณจบมหาวิทยาลัย ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณต้องเรียนรู้หลังจากนั้น ลองหาซักอย่างที่คุณจะรัก แล้วลงมือทำและเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะรู้ทุกสิ่ง แต่ยิ่งคุณรู้มากคุณยิ่งมีโอกาสมาก

2. สร้างเครือข่าย - การรู้จักคนอื่น ๆ ที่ทำงานในสายงานเดียวกับคุณ ช่วยเปิดโอกาสในความก้าวหน้าทางอาชีพให้คุณ และคุณไม่ควรจำกัดเพียงเฉพาะบุคคลที่ทำงานในสายงานของคุณเท่านั้น ยิ่งคุณรู้จักคนมากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น คุณไม่อาจรู้ได้ว่าคุณจะได้เรียนรู้อะไรจากบุคคลเหล่านั้น บางครั้งคุณอาจพบกิจกรรมยามว่าง ๆ เจ๋ง ๆ ก็ได้  โปรดจำไว้ว่าการสร้างเครือข่ายนั้นไม่ใช่แค่การยื่นนามบัตรของคุณให้ แต่มันคือการสร้างความสัมพันธ์จริง ๆ ผ่านการพูดคุย

3. แบ่งปันความรู้ - ลองสร้างวีดีโอ, power point, e-book หรือเขียน blog เกี่ยวกับสิ่งที่คุณชำนาญ แล้ว กระจายให้คนอื่น ๆ แบบฟรี ๆ ดูสิ เพราะเมื่อคุณแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นแล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับกลับมาก็คือการบอกว่าคุณคือผู้เชียวชาญทางด้านนี้ การเป็นผู้เชียวชาญนั้นจำเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในการทำงานและขึ้นไปสู่จุดสูงสุด คนอื่น ๆ จะเชื่อใจคุณ และวางคุณในตำแหน่งที่มีความสำคัญมากขึ้น เมื่อคุณเป็นผู้เชียวชาญ

1 นาทีกับทริปแหล่ม ๆ: ทริคในโรงแรม

คุณรู้หรือไม่ว่า ถ้าโรงแรมที่คุณพักใช้ระบบทีวีของโนเกีย (Nokia TV system) คุณสามารถดูภาพยนต์ได้ฟรี ด้วยการกดปุ่มบนรีโมท ตามนี้ 2-2-1-ลูกศรลง และ กดปุ่ม OK ค้างไว้

ที่มา: Lifehack

ร้านขายของชำที่ใช้พลังงานจากของกินเหลือทิ้ง

ภูมิภาคที่ร่ำรวยของโลกนั้นมีของกินเหลือทิ้งจำนวนมาก โดยมีประมาณการว่าถึง 40% ของอาหารในอเมริกันเหลือทิ้ง อย่างไรก็ดี supermarket ที่ใหญ่เป็นอันดับสองใน UK ได้กู้บางสิ่งออกมาจากเศษซากอาหารเหล่านั้น

Sainsbury ได้เปลี่ยนวิธีการกำจัดของเหลือ จากเดิมที่ส่งไปฝังกลบ มันจะถูกส่งไปสร้างกระแสไฟฟ้าให้บางสาขา Paul Crewe กล่าวว่า "มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้มันยังเป็นโฆษณาที่ดีอีกด้วย" การฝังกลบของเหลือนั้นมีค่าใช้จ่าย £150 ต่อตัน ขณะที่ทางเลือกในการเปลี่ยนของเหลือเป็นพลังงานนั้นถูกกว่ามาก มันเป็นการเปลี่ยนของเหลือทิ้งเป็นของที่ใช้ประโยชน์ได้

ของจากธรรมชาติที่ไม่สามารถใช้โดย foodbanks หรือใช้เป็นอาหารสัตว์ได้จะถูกส่งไปยังโรงงานไฟฟ้าชีวภาพ (Bio gas) ที่ซึ่งผลิตก๊าซมีเทนเมื่อมันเน่า จากนั้นก็นำไปเผาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า กระทั่งก่อนหน้านี้เล็กน้อยไฟฟ้าที่ได้จะถูกส่งเข้าสู่กระบวนการจ่ายไฟฟ้าซึ่งไฟฟ้าที่ได้สามารถจ่ายไฟให้ร้านของ Sainsbury ได้ถึง 3 ร้านเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี Sainsbury มี supermarket ที่ค่อนข้างใกล้กับโรงงานไฟฟ้า ดังนั้น Crewe จึงตัดสินใจที่จะการต่อสายตรงจากโรงไฟฟ้ามายังร้านค้านั้น การทำอย่างนี้ไม่ได้มีประโยชน์ในแง่การจัดการของเหลือใช้ แต่มันเป็นสัญญาลักษณ์ที่มีพลังมาก ที่จะบอกว่า supermarket นี้ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดนั้น ได้จากของเหลือใช้ 

นอกจากนี้แผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ยังถูกติดตั้งบนหลังคา supermarket ของ Sainsbury ทำให้พวกเค้ากลายเป็นกลุ่มที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้มากที่สุด เมื่อปี 2012 การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยลดการใช้ไฟฟ้าลงถึง 9% ใน 4 ปีที่ผ่านมา

ความพยายามในครั้งนี้ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาของสิ่งเหลือทิ้งหลังจากที่อาหารถูกซื้อไปแล้ว อาหารเหลือทิ้งเป็นได้ว่าจะเป็นแหล่งวัตถุดิบของการสร้างพลาสติกชีวภาพ (biodegrable plastics) อีกด้วย อย่างไรก็ดี วิธีจัดการของเหลือทิ้งที่ดีนั้นกลับมาจาก ร้านค้าในฝรั่งเศส Intermarché ซึ่งได้เรียนรู้ว่าของเหลือส่วนมากมักมาจากผักและผลไม้ที่หน้าตาไม่ดี ดังนั้นทางร้านจึงได้ตั้งแคมเปญอย่าง การลดราคาและเสียงหัวเราะ ที่ซึ่งช่วยให้ปริมาณของอาหารเหลือทิ้งลดลง

ที่มา IFLSCIENCE

กระจกมองหลังอัจฉริยะ (ที่สามารถมองทะลุกองขยะหลังรถได้)

กระจกมองหลังจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ เพราะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังรถของคุณ แต่บางครั้งมันก็ยากเหมือนกันที่จะสามารถมองเห็นข้างหลังรถ โดยเฉพาะกับรถ SUV ที่หลังรถอาจเต็มไปด้วยของต่าง ๆ เช่น พวกกล่อง กระเป๋า หรือแม้แต่เด็ก ๆ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วนิสสันจึงเลือกทำอะไรกับมัน ในงาน New York Auto Show ที่จัดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นิสสันได้ทำการโชว์ระบบกระจกมองหลังอัจฉริยะที่ติดตั้งบน Nissan Rogue SUV (ตอนนี้ยังเป็นรุ่นต้นแบบอยู่) ในรถคันนี้เราจะเห็นกระจกมองหลังรุ่นพิเศษที่สามารถปรับได้ 2 แบบคือ กระจกมองหลังธรรมดาและจอ LCD  โดยเมื่อกระจกมองหลังถูกบังด้วยสิ่งของต่าง ๆ คนขับรถสามารถกดปุ่มที่กระจกเพื่อเปลี่นกระจกธรรมดาเป็นจอ LCD ที่นำภาพจากกล้องถ่ายมุมกว้างทางด้านหลังรถ โดยฟังก์ชั่นสุดแจ่มนี้จะเริ่มที่ญี่ปุ่นประมาณปลายปีนี้ ส่วนทาง US นั้นยังคงอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ส่วนพี่ไทยของเรานั้นในข่าวไม่ได้กล่าวถึงแต่อย่างใด...

ที่มา - POPULAR SCIENCE 

10 สิ่งที่คนมีความสุขไม่เชื่อ(ว่ามันจริง)

1. ชีวิตเราเท่าเทียมกัน - ความสุขไม่ได้มาจากความสมหวังในทุกสิ่งที่คุณต้องการ คนที่มีความสุขจะเข้าใจว่าบางครั้งชีวิตอาจไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง พวกเขารู้แค่ว่าพวกเขาได้ทำดีที่สุดแล้ว การให้อภัยตัวเองและการลืมมันไปซะ ก็อาจจำเป็นสำหรับชีวิตของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน

2. ความเจ็บปวดนั้นแย่ - ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในชีวิตมนุษย์ คุณไม่สามารถอยู่รอดในโลกนี้เลยถ้าคุณไม่เคยเจ็บ คนที่มีความสุขนั้นรู้ว่าความสุขที่แท้จริงมาจากการที่เราสามารถผ่าฟันความเจ็บปวดอันแสนสาหัสได้ พวกเราจะรู้ว่าเราเจ๋งแค่ไหนเมื่อเราเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่แสนทรมาน

3. ฉันสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ - ไม่ว่าคุณจะทำงานหรือวางแผนมาดีแค่ไหน คุณก็ต้องเข้าใจว่าคุณไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือความคิดของคนอื่น ดังนั้นในการมุ่งสู่ความสุข คนที่มีความสุขจะยอมรับความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และเรียนรู้ที่จะควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า

มันทำงานยังไง: บุหรี่ไฟฟ้า - อนาคตของการสูบบุหรี่

ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวดบุหรี่ไฟฟ้าในปี 2007 ยอดขายรายปีก็ได้พุ่งถึง 1 พันล้านเหรียญ ใน สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่ามันจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความคลุมเคลือในแง่ของความปลอดภัย ปีที่แล้ว กลุ่มนักวิทยาศาตร์นานาชาติได้ทำการศึกษาในบุหรี่ไฟฟ้า ได้พบว่าค่าสารพิษในบุหรี่ไฟฟ้าน้อยกว่าบุหรี่จากใบยาสูบ ถึง 9-450 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้องค์การอาหารและยา ยังคงสนับสนุนการค้นคว้าในเรื่องนี้ต่อไป ขณะที่พยายามจำแนกผลิตภัณฑ์ตัวนี้

ภาพจาก POPULAR SCIENCE

ระบบตรวจสอบสัญญาไฟจราจรจากออดี้ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงาน

ภาพจาก POPULAR SCIENCE
ระบบใหม่ที่ช่วยให้คนขับ รู้ว่าสัญญาณไฟจราจรกำลังจะเปลี่ยน

ในเร็ววันนี้รถยนต์จะเริ่มที่จะสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่าแค่เพียงคนขับ ออดี้รู้ว่าไม่มีใครชอบรถติดเพราะคนขับรถข้างหน้าเป็นพวกไม่ช่างสังเกตสัญญาณไฟจราจร ออดี้จึงได้นำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา

Audi Online traffic light recognition system ผมขอย่อเป็น ระบบเช็คสัญญาณไฟ แล้วกันนะครับ... ระบบนี้สามารถช่วยให้คุณประหยัดเชื้อเพลิงและลดความน่ารำคาญ โดยการทำให้คนขับรู้ว่าสัญญาณไฟจราจรกำลังจะเปลี่ยน  ระบบเช็คสัญญาไฟทำงานโดยการอ่านข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของศูนย์ข้อมูลจราจรและนำข้อมูลนั้นมาแสดงที่หน้าจอของรถยนต์

ขณะที่ไฟแดงอยู่ระบบสามารถนับถอยหลังก่อนที่สัญญาณไฟจะกลายเป็นสีเขียวและทำการเริ่มระบบเครื่องยนต์ 5 วินาทีก่อนที่มันจะเขียว ขณะวิ่งอยู่นั้นระบบก็จะคำนวนว่าเราสามารถวิ่งผ่านไฟเขียวข้างหน้าได้ทันไหม ถ้าไม่ทันระบบจะแนะนำให้คนขับเริ่มชะลอรถ เพื่อป้องกันการหยุดรถกระทันหัน

ออดี้เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานอย่างมหาศาลในการขับรถในเมือง เพราะการเร่งและจอดตามสภาพการจราจรนั้นเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน และมันยังช่วยให้สภาพการจราจรดีขึ้นอีกด้วย

ขณะนี้ออดี้กำลังทดสอบระบบนี้ใน Berlin, LasVegas และ Verona บอกว่าได้ตอนนี้ระบบโดยรวมพร้อมแล้ว เหลือแค่เพียงรอการอนุมัติจากรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลเองก็กำลังทำการวิเคราะห์อย่างเข้มขันและยังไม่สามารถบอกได้ว่าระบบนี้จะเริ่มออกขายได้เมื่อใด

ที่มา - POPULAR SCIENCE