แท็บเล็ต(iPad or Android device) ของคุณสามารถใช้ได้ถึง 8-10 ชม ถ้าเพียงคุณทำตามวิธีการต่อไปนี้
1) แท็บเล็ตก็เหมือนอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วๆ ไป ที่เกลียดอุณหภูมิแบบสุดขั้ว(ร้อนจัดหรือเย็นจัด) และความร้อนนี่แหละที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของแบตเตอรี่ ดังนั่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ผมขอแนะนำให้คุณเก็บแท็บเล็ตของคุณที่อุณหภูมิ 22 C แน่นอนว่ามันเป็นไปได้ยาก แต่ก็พยายามแล้วกันนะครับ
2) ถ้าคุณสังเกตุ หน้าจอนั้นเป็นสิ่งที่กินแบตเตอรี่เป็นอันดับต้น มันจะดูไม่ฉลาดเลยถ้าคุณปรับหน้าจอให้สว่างที่สุดตลอดเวลา เพราะมันจะกินแบตเตอรี่ไปมหาศาลหเลยทีเดียว ทางที่ดีนะ ผมแนะนำให้เปิด auto-brightness จะดีกว่า จะได้ไม่สิ้นเปลืองแบตเตอรี่
3) Push Notification ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้สั้นลง นอกจากนี้สิ่งที่ส่งมาก็มักเป็นเพียงโปรโมชั่นหรือโฆษณาที่คุณไม่ได้สนใจ ผมว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าคุณเลือกเปิดเฉพาะสิ่งที่คุณสนใจและปิดสิ่งอื่น ๆ ทิ้งไป
4) การชาร์ตแบตเตอรี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ควรทำให้ถูกต้อง ตามหลักการแล้ว เราไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง ควรชาร์จมันก่อนที่จะหมด และจะดีขึ้นถ้าเราสามารถปิดเครื่องขณะชาร์ตได้ เพราะบางแอพ อาจทำงานขณะที่เราชาร์ตแบตเตอรี่ ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่ร้อนโดยไม่จำเป็น
5) Location service หรือ สิ่งที่ช่วยบอกสถานที่ เช่น พวกโปรแกรมแผนที่ ที่ใช้ GPS ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ แล้วบ่อยครั้งที่เรามักจะลืมปิดโปรแกรม หลังจากใช้เสร็จแล้ว ดังนั้นคุณควรมั่นใจว่าจะปิดมันให้เรียบร้อยหลังจากใช้เสร็จ ไม่งั้นรู้ตัวอีกทีแบตเตอรี่อาจจะหมดเกลี้ยงไปแล้ว
6) แทนที่คุณจะเลือกประหยัดพลังงาน บางทีคุณอาจมองไปที่การหาพลังงานเพิ่มเติม และ Power-bank นี้เองที่เป็นคำตอบ โดย power-bank จะทำตัวเหมือนแบตเตอรี่อีกก้อนที่จะสามารถยืดเวลาการใช้แท็บเล็ตของคุณ
7) ถ้าคุณใช้แอนดรอยแท็บเล็ต widget จัดว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานหน้า home screen ได้หลากหลายและมีประโยชน์ แต่มันเป็นก็อีกส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างกินแบตเตอรี่เลยทีเดียว ถ้าคุณอยากจะประหยัดแบตเตอรี่ ผมว่าคุณคงต้องบอกลาเหล่า widget และ live wallpaper ที่แสนจะกินแบตเตอรี่ไปได้แล้ว
8) Airplane mode หรือโหมดการบิน เป็นฟังก์ชั่นที่ปิดการทำงาน wireless (สัญญาณไร้สาย) แทบทุกชนิดในเครื่องของคุณ ไม่ว่าจะเป็น WiFi สัญญาณมือถือ หรือกระทั่ง GPS แน่นอนว่าถ้าคุณใช้งานแท็บเล็ตอยู่ คุณคงไม่คิดที่จะปิดมันไป แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณไม่ต้องการใช้งานหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่มีสัญญาณ(มือถือ/WiFi) การเปิด airplane mode ก็อาจเป็นวิธีที่ดีอีกอันหนึ่งที่จะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้
9) email และ แอพอีกหลายตัวมีการเช็คและดึงข้อมูลอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งมันดึงบ่อยแค่ไหนก็จะเปลืองแบตเตอรี่มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าถ้าเราลดความถี่ในการดึงข้อมูลของมัน หรือไม่เราอาจเลือกที่จะสั่งให้ดึงข้อมูลเฉพาะเวลาจะใช้เท่านั้น
10) การล็อคหน้าจอ นอกจากจะช่วยไม่ให้คนอื่นขโมยข้อมูลของคุณได้แล้ว มันยังช่วยให้แท็บเล็ตของคุณประหยัดพลังงานอีกด้วย ดังนั้นเราควรเลือกที่จะปรับให้เหลือเวลาสั้นสำหรับการล็อคหน้าจออัตโนมัติ
ที่มา: InformationWeek
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น