✅คำตอบเบื้องต้น:
- ถ้าคุณเป็นคนจำนำเองโดยสมัครใจ และไม่มีการขู่เข็ญหรือหลอกลวง → จะฟ้องได้ยาก แม้ราคาจะดู “เกินจริง”
- แต่ถ้ามีข้อเท็จจริงว่า อีกฝ่ายเอารัดเอาเปรียบ, คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมาย, หรือมีเจตนาโกง → อาจฟ้องได้ ตามกฎหมายแพ่ง หรือกฎหมายอาญา (ในบางกรณี)
🔍 วิเคราะห์กรณี: “ให้จำนำทองคำ 1 กรัม ราคา 7,500 บาท”
🟡 1. ราคาเกินจริงไหม?
- ราคาทองคำแท่ง 1 กรัม ณ เดือนมิถุนายน 2567 อยู่ประมาณ 2,900 – 3,300 บาท (ขึ้นอยู่กับตลาด)
- หากมีผู้ “รับจำนำ” โดย ให้เงินมากถึง 7,500 บาท/กรัม นั่นคือ “เกินราคาจริงมาก” ซึ่งปกติ โรงรับจำนำจะไม่ทำ เพราะเสี่ยงขาดทุน
🔴 2. ถ้าคุณเป็น “ผู้รับจำนำ” และผู้จำนำ ไม่มาไถ่ถอน → คุณขาดทุนหนัก
- แต่ไม่สามารถ “ฟ้องเรียกส่วนต่างเพิ่ม” ได้ เพราะเป็นความเสี่ยงของการรับจำนำเอง
🔴 3. ถ้าคุณเป็น “ผู้จำนำ” และอีกฝ่ายให้เงินมากกว่าราคาทองมากเกินไป แล้วมาภายหลังเรียกร้องให้คืนมากกว่าตามสัญญา หรือ ข่มขู่ บังคับอย่างไม่เป็นธรรม → อาจเข้าข่ายสัญญาเอารัดเอาเปรียบ
- สามารถนำเรื่องไป ร้องเรียน หรือขอฟ้องเพิกถอนสัญญา/ลดหนี้/ไม่ต้องชำระดอกเบี้ย ได้
⚖️ ฟ้องได้ในกรณีใดบ้าง?
สถานการณ์ |
ฟ้องได้หรือไม่ |
หมายเหตุ |
ดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี |
✅ ฟ้องได้ |
ผิดกฎหมายแพ่ง (ป.พ.พ. ม.654) |
ถูกบังคับจำนำโดยข่มขู่ |
✅ ฟ้องได้ |
เข้าข่ายข่มขืนใจ / ฉ้อโกง |
สัญญาไม่เป็นธรรมเกินไป |
✅ ฟ้องได้ |
ใช้ พ.ร.บ.ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม |
แค่ให้ราคาสูง (สมัครใจ) |
❌ ฟ้องยาก |
ถือว่า “สมยอม” ตามกฎหมายแพ่ง |
✅ สรุป:
- หากคุณคือ ผู้รับจำนำที่จ่ายแพงเกินจริง → ไม่สามารถฟ้องเรียกเงินคืนเพิ่มได้
- หากคุณคือ ผู้จำนำ แล้วถูกหลอกให้ทำสัญญาจำนำที่เอารัดเอาเปรียบ → สามารถฟ้องได้ ถ้ามีหลักฐานว่าถูกหลอกหรือข่มขู่
- การ “ให้จำนำเกินราคาตลาด” อย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับฟ้องร้องได้โดยอัตโนมัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น